-หมายถึง กล้องที่สามารถถ่ายภาพได้ชัดเจนมากกว่ากล้องธรรมดา
-ประเภท1.กล้อง Compact 2.กล้องMirrorless และ 3. กล้อง DSLR
-
2. หัวพ่นหมึก
Printer ที่มีหัวพ่นอยู่ที่ตลับหมึก ราคาจะสูงกว่า แต่ทุกครั้งที่หมึกหมด จุะต้องเปลี่ยนทั้งตลับทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาเครื่องหมึกอุดตัน
3. ตลับหมึก
บางรุ่น จะแยกออกจากหัวพ่นหมึก แต่ถ้าจะให้ดีควรสามารถแยกตลับสีแต่ละสีจากกันได้ เวลาสีบางสีหมด จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งหมด
4. หน่วยความจำ
Printer ที่มีหน่วยความจำมาก ย่อมทำให้การพิมพ์เร็วขึ้น (หน่วยความจำบนคอมฯ กับ Printer จะไม่เหมือนกัน)
5. ความเร็วในการพิมพ์ต่อนาที
ขึ้นกับงานที่ต้องการ เช่น สี 4 แผ่น ขาวดำ 8 แผ่นเป็นต้น (โดยปกติการพิมพ์สีจะช้ากว่าการพิมพ์ขาวดำ)
6. การเชื่อมต่อ
เดิมการต่อ Printer กับคอมฯ ก็ไม่พ้น LPT part แต่ปัจจุบัน USB port ก็เป็นทางเรื่องใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากเป็น port ที่พิมพ์ด้วยความเร็วสูง
7. ระบบป้อนกระดาษ
ระบบป้อนกระดาษด้านหน้าจะดีกว่าป้อนกระดาษด้านบน เพราะโอกาสติดจะน้อยกว่า
-การเลือกซื้อ1. ซื้อกล้องดิจิตอลอะไรดี
2. ซื้อกล้องดิจิตอลคอมแพ็ค หรือ DSLR ดีกว่ากัน
3. ถ้ากล้อง DSLR ดีกว่ากล้องคอมแพ็ค ทำไมคนถึงยังซื้อกล้องคอมแพ็คกัน
2.Memory
-หมายถึง เป็นอุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ ที่ใช้เก็บคำสั่ง และข้อมูลที่ไมโครเซสเซอร์ สามารถเข้าถึงได้เร็ว เมื่อคอมพิวเตอร์ อยู่ในการทำงานปกติ หน่วยความจำจะเก็บส่วนใหญ่ของระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมประยุกต์บางส่วนหรือทั้งหมด และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน หน่วยความจำมักจะใช้ ในความหมายเดียวกับหน่วยความจำชั่วคราว หน่วยความจำชนิดนี้ ตั้งอยู่บนไมโครซิปหนึ่ง หรือมากกว่า ใกล้กับไมโครโพรเซสเซอร์ในคอมพิวเตอร์ การมีขนาด RAM ยิ่งมากจะช่วยลดความถี่ของคอมพิวเตอร์
-ประเภท 1. หน่วยความจำหลักแบบอ่านได้อย่างเดียว
2. หน่วยความจำหลักแบบแก้ไขได้
-
-การเลือกซื้อ
1. ตรวจสอบรูปแบบเมมโมรีjการ์ด
2. ตรวจสอบความจุ
3. ความเร็วของการ์ด
3.Flash Drive
-หมายถึง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาติดตัว แต่ในขณะเดียวกันมีความจุสูง สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมากตั้งแต่ 2 GB ถึง 16 GB และขนาดความจุข้อมูลก็ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
-ประเภท ร่น 128 MB , 16 GB
-
-การเลือกซื้อ ทดลองเสียบกับคอมพิวเตอร์ดูก่อนว่าเปิดใช้งานได้ไหม
4.Pinter
-หมายถึง เครื่องที่นำไฟล์งานต่างที่เป็นไฟล์เอกสารภายในคอมพิวเตอร์ของเราไปพิมพ์ออกมาเป็นแผ่นกระดาษ
-ประเภท
1. เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot Matrix Printer)
2. เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Ink-Jet Printer)
3. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)
4. พล็อตเตอร์ (plotter)
-
-การเลือกซื้อ
1. เทคโนโลยี
คงไม่พ้นเรื่องความละเอียดในการพิมพ์ เช่น 1440 จุดต่อนิ้ว ปัจจุบันถือว่า จำนวน DPI สูง ๆ ไม่ถือว่าจะมีคุณภาพการพิมพ์สูง แต่ต้องดูในเรื่องของคุณภาพงานพิมพ์มากกว่า เพราะยิ่ง DPI สูง เวลาพิมพ์จะเปลืองหมึกมากและพิมพ์ช้าลงด้วย2. หัวพ่นหมึก
Printer ที่มีหัวพ่นอยู่ที่ตลับหมึก ราคาจะสูงกว่า แต่ทุกครั้งที่หมึกหมด จุะต้องเปลี่ยนทั้งตลับทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาเครื่องหมึกอุดตัน
3. ตลับหมึก
บางรุ่น จะแยกออกจากหัวพ่นหมึก แต่ถ้าจะให้ดีควรสามารถแยกตลับสีแต่ละสีจากกันได้ เวลาสีบางสีหมด จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งหมด
4. หน่วยความจำ
Printer ที่มีหน่วยความจำมาก ย่อมทำให้การพิมพ์เร็วขึ้น (หน่วยความจำบนคอมฯ กับ Printer จะไม่เหมือนกัน)
5. ความเร็วในการพิมพ์ต่อนาที
ขึ้นกับงานที่ต้องการ เช่น สี 4 แผ่น ขาวดำ 8 แผ่นเป็นต้น (โดยปกติการพิมพ์สีจะช้ากว่าการพิมพ์ขาวดำ)
6. การเชื่อมต่อ
เดิมการต่อ Printer กับคอมฯ ก็ไม่พ้น LPT part แต่ปัจจุบัน USB port ก็เป็นทางเรื่องใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากเป็น port ที่พิมพ์ด้วยความเร็วสูง
7. ระบบป้อนกระดาษ
ระบบป้อนกระดาษด้านหน้าจะดีกว่าป้อนกระดาษด้านบน เพราะโอกาสติดจะน้อยกว่า
5.Scanner
-หมายถึง คัดลอกข้อความทุกอย่างบนกระดาษที่เราใส่ไปในเครื่องสแกนเนอร์เพื่อทำออกมาอีกแผ่นโดยเหมือนนทุกอย่าง
-ประเภท
1. สแกนเนอร์แบบแฟลตเบด Flatbed
2. สแกนเนอร์แบบปากกา Pen Or Handheld scanner
3. สแกนเนอร์แบบดึงกระดาษ Sheet-fed Scanner
4.สแกนเนอร์แบบกลอง Drum scanner
-
-การเลือกซื้อ
1. DPI (Dot Per Inch)
2.การเชื่อมต่อ
3. โปรแกรม
4. ความสามารถพิเศษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น